วันศุกร์ที่ 4 กรกฎาคม พ.ศ. 2551

ส่งงานเดี่ยวค่ะ

กิจกรรมส่งเสริมภาษา
ผลงานศิลปะที่น้องเลือกมาเล่า


น้องกำลังเล่าเรื่องจากภาพ

กิจกรรมเลือกเล่าเรื่องจากภาพที่ประทับใจ

-การเตรียมตัวในการทำกิจกรรม

1.จัดหากิจกรรม

2.จัดหาอุปกรณ์

3.สุ่มหาเด็กที่จะทำกิจกรรม

-การจัดเตรียมอุปกรณ์

1.ให้เด็กทำงานศิลปะ คือ เด็กมีงานศิปะที่ทำจากโรงเรียนที่เด็กชอบเลือกมา 1 ชิ้น

2.มีกระดาษและสีเทียน สีน้ำให้เด็ก

-ขั้นตอนการจัดกิจกรรม

1.ให้เด็กนำงานศิลปะที่ทำจากโรงเรียนโดยเลือกที่ชอบมา 1 ชิ้นงาน

2.จัดเตรียมกระดาษและสีเทียน สีน้ำให้เด็ก

3.ให้เด็กเลือกว่าจะทำงานศิลปะใหม่หรือจะเลือกงานศิลปะที่มีอยู่

4.เด็กเลือกงานศิลปะที่ตนเลือกมา

5.เด็กเล่าเรื่องจากภาพ

6.เด็กเล่าว่า เขาไปเที่ยวงานลอกกระทง เขาชอบพุที่งานมาก เขาเลยเลือกกิจกรรมหยดสีเพราะงานเขาออกมาเป็นเหมือนรูปพุ ดอกไม้


สรุปผลที่ได้เรียนรู้จากกิจกรรม

เราได้รู้ว่าเด็กจะใช้ภาษาที่ตนมีประสบการณ์มาสื่อให้เราเข้าใจ ง่ายๆ คือ เด็กจะนำประสบการณ์เดิมมาผสมผสานกับประสบการณ์ใหม่แล้วถ่ายทอดหรือสื่อด้วยภาษาที่เด็กมีให้คนอื่นเข้าใจ เหมือนภาพที่ใช้ เด็กสามารถบรรยายได้แม้จะไม่ใช่ความเป็นจริง เป็นจินตนาการของเด็กเองก็ตามและเด็กสามารถสื่อสารหรือพูดบรรยายให้คนอื่นเข้าใจได้ง่ายอย่างที่เด็กเข้าใจและจินตนาการ

วันอาทิตย์ที่ 17 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2551

เพลินภาษา..พัฒนาสนุก ด้วย การเขียน


ภาษาเป็นเครื่องมือสื่อสารขั้นพื้นฐานของเจ้าตัวเล็ก เป็นกุญแจที่นำไปสู่การเรียนรู้เรื่องอื่นๆ อีกมากมาย Smart Tips ขอเสนอวิธีพัฒนาภาษาด้วย 4 องค์ประกอบ ฟัง พูด อ่าน เขียน ผ่านการเรียนรู้สนุกๆ ที่คุณพ่อคุณแม่สามารถสร้างได้เองที่บ้าน เพื่อปูพื้นฐานสู่การเรียนรู้ที่ยิ่งใหญ่ต่อไปค่ะ

Let’s : Writing

- ก่อนเขียนต้องรู้จักพยัญชนะหรือตัวเลขก่อนค่ะ ว่าแต่ละตัวมีรูปร่างอย่างไร หาสมุดภาพคำศัพท์ที่มีตัวอักษรและรูปภาพช่วยให้จำง่ายขึ้น เกมจับคู่-ลากเส้นระหว่างตัวอักษรกับภาพ หรือเกมหาอักษรจากกองพยัญชนะช่วยได้ค่ะ

- ทำงานศิลป์อุ่นเครื่องเรื่องเขียน ใช้พู่กันหรือสีชอล์กอันใหญ่ฝึกควบคุมทิศทางการเขียน เสร็จแล้วอย่าลืมให้เจ้าหนูเขียนชื่อหรือทำสัญลักษณ์ว่าเป็นเจ้าของผลงานด้วยนะคะ

- ลองให้เขาฝึกเขียนรูปแบบอื่น เช่น เขียนบันทึก ตารางกิจวัตรประจำวัน เขียนการ์ดอวยพรหรือจดหมายส่งให้เพื่อนๆ ที่ต้องมีทั้งชื่อผู้รับและผู้ส่ง คำขึ้นต้นและคำลงท้ายค่ะ

สื่อสารอย่างสร้างสรรค์ ด้วยภาษากาย



ภาษากายหรืออวัจนภาษาคือการสื่อสารรูปแบบหนึ่งนอกจากภาษาพูดและเขียนค่ะ ที่ช่วยเสริมสร้างพัฒนาการทางภาษาของลูกได้ เพราะทุกครั้งที่คุณกอดหรือสบตาเจ้าหนูเวลาที่เขาสื่อสาร จะช่วยพัฒนาด้านอารมณ์จิตใจและเติมความรู้สึกด้านบวก ให้ลูกรู้สึกมั่นใจในทุกๆ การสื่อสาร ลองทำดูนะคะ
- สื่อสารอย่างเท่าเทียม เวลาพูดคุยกับเจ้าหนูไม่ควรยืนหรืออยู่สูงกว่า เพราะสัดส่วนที่ต่างกันทำให้เขารู้สึกถูกกดดัน จนอาจส่งผลลบ ทำให้เขาไม่กล้าพูดหรือสื่อสาร
- โอบกอดเพิ่มความอบอุ่นและกำลังใจ กำลังใจเป็นพลังขับเคลื่อนที่ดี ช่วยให้เขาประสบความสำเร็จในทุกเรื่องได้ค่ะ
- สบตาเวลาหนูเล่า เพื่อให้เด็กๆ รู้สึกว่าคุณพ่อคุณแม่กำลังสนใจและให้ความสำคัญกับเรื่องราวที่เขากำลังถ่ายทอด การสบตายังช่วยเพิ่มกำลังใจได้ดีอีกด้วยนะคะ
ทักษะการฟัง พูด อ่าน และเขียน ทุกองค์ประกอบล้วนเชื่อมโยง สนับสนุนและส่งเสริมซึ่งกันและกันค่ะ เพียงแค่คุณพ่อคุณแม่คอยสนับสนุนและส่งเสริมอย่างถูกต้องตามวัย โดยไม่เร่งรัดหรือเข้มงวดกับการเรียนรู้ของเจ้าหนูจนเกินไป เพราะสำหรับเด็กแล้ว การเรียนรู้ที่ดีต้องเกิดควบคู่ไปกับบรรยากาศที่สนุกด้วยค่ะ

บ่มภาษา..พัฒนาการเรียนรู้


ในชีวิตประจำวันเราใช้ทักษะฟัง พูด อ่าน เขียน เพื่อเรียนรู้และทำความเข้าใจกับสิ่งที่เกิดขึ้นในโลกมากมายค่ะ โดยเฉพาะด้านภาษา ซึ่งหากเจ้าหนูมีพัฒนาการทางภาษาดีจะส่งผลต่อความเข้าใจและการเรียนรู้ในเรื่องอื่นๆ ต่อไปได้อย่างไม่มีขีดจำกัดเลยค่ะและจะยิ่งดีแค่ไหน ถ้าคุณพ่อคุณแม่เริ่มส่งเสริมและบ่มเพาะภาษาให้เจ้าหนูตั้งแต่ตอนนี้

ภาษา คือเครื่องมือในการติดต่อสื่อสารกับบุคคลอื่น เพื่อบอกความต้องการและถ่ายทอดความรู้สึกของตัวเรา ช่วยทำให้ความคิดและจินตนาการก่อตัวเป็นรูปเป็นร่างมากขึ้น สำหรับเจ้าตัวเล็กแล้ว ภาษายังถือเป็นศูนย์กลางของกระบวนการเรียนรู้ เป็นเครื่องมือในการแสวงหาความรู้ที่สำคัญ ทำให้เข้าใจพื้นฐานต่อสิ่งต่างๆ ในโลกรอบตัวได้


นักวิทยาศาสตร์พบว่าก่อนอายุ 8 ปี สมองของเจ้าตัวเล็กจะเปิดกว้างกับการเรียนรู้เรื่องภาษาอย่างเต็มที่ สามารถเรียนรู้และพัฒนาทางภาษาได้อย่างรวดเร็ว หากเด็กได้รับการส่งเสริมเรื่องภาษาอย่างถูกต้องตรงตามพัฒนาการของวัย จะทำให้เกิดการเรียนรู้ใหม่ๆ รู้จักคิดและเข้าใจสิ่งต่างๆ ในโลกมากขึ้นเรื่อยๆ ค่ะ


คุณพ่อคุณแม่สามารถส่งเสริมเจ้าตัวเล็กได้ ด้วยการพัฒนาทักษะฟัง พูด อ่าน เขียนอย่างสอดคล้องกับวัยลูกค่ะ
3-5 ปี นักฟังและพูด


พัฒนาการด้านภาษาของน้องอนุบาล 1 และ 2 โดดเด่นที่ทักษะการฟังและการพูดค่ะ วัยนี้มีความสามารถในการเรียนรู้แบบเฉพาะตัว เจ้าหนูชอบจะคอยฟังและจดจำเวลาคุณพ่อคุณแม่หรือคนรอบข้างพูดคุยกัน เพื่อเก็บสั่งสมเป็นคลังคำศัพท์มากมายในสมอง ขณะเดียวกันก็ดึงมาใช้ผ่านการตั้งคำถามนู่นอะไร นี่อะไรอยู่บ่อยๆ ดังนั้น ช่วงนี้ถือเป็นโอกาสทองของการปูพื้นฐานทางภาษาที่สำคัญของเจ้าหนูเลยล่ะค่ะ


5-6 ปี เจ้าหนูนักอ่าน


ขยับขึ้นมาอีกนิด พี่อนุบาล 3 จะมีพัฒนาการด้านการฟังและการพูดดีกว่าน้อง อ.1 และ อ.2 สามารถเข้าใจคำศัพท์ยากๆ จดจำรูปแบบของคำ และเรียบเรียงออกมาเป็นประโยคที่ยาวขึ้น รวมทั้งพัฒนาด้านการอ่านเร่มเด่นชัดขึ้น ชอบหยิบหนังสือมานั่งอ่านเองและอ่านนิทานสั้นๆ ได้เองจนจบเรื่อง ชอบคิดวิเคราะห์และสนุกที่จะเชื่อมโยงเรื่องราวต่างๆ ที่เคยฟังจากเรื่งอที่คุณพ่อคุณแม่เล่า ทำให้ลูกรักการอ่านและรู้สึกว่าการอ่านเป็นเรื่องสนุกค่ะ

วันพุธที่ 7 พฤศจิกายน พ.ศ. 2550

วันนี้เรียนสนุกจังเลย


วันนี้เรียนวิชาจิตวิทยาสนุกมากเลยอาจารย์ตลกดีให้เพื่อนออกมาแสดงละครสนุกมากเลยค่ะ

บทเพลงสื่ออารมณ์